星期一, 三月 02, 2015

Samathan

turned_in เรื่อง คำศัพท์ และการอ่านพิสูจน์บทอักษร อักขระบทธรรม

คำศัพท์ 16/255/12 ชื่อเล่ม หน้า บรรทัด
“บทคำศัพท์ พยัญชนะ สระ อันเป็นใจความ ‘เพื่อความบริสุทธิ์ บริบูรณ์ สมบูรณ์ สิ้นเชิง’ ตามนัยซึ่งความหมาย อันที่มีปรากฏมาดีแล้ว ในบทคำศัพท์ ของพระเถระธรรม บทพระนามกรแห่ง ‘พระวรคติธรรม’ ของคำศัพท์ภาคภาษาไทย ซึ่งไปโดยใน ไปด้วยบทของพระไตรปิฎก หนังสือพระไตรปิฎก บทพระอักษรสยาม”

 อรรถประโยชน์ ที่พิมพ์ดูที่อ้าง การเทียบเคียง
 
ว่าด้วยสังคีติหมวด ๑๐

[๓๕๗] ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ธรรมทั้งหลาย ๑๐ ที่พระผู้
มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้ ทรงเห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์
นั้น ตรัสไว้โดยชอบมีอยู่ พวกเราทั้งหมดด้วยกัน พึงสังคายนา ไม่พึง
โต้แย้งกันในธรรมนั้น ฯลฯ เพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูลแก่เทวดาและ
มนุษย์ทั้งหลาย. ธรรม ๑๐ เหล่านั้นเป็นไฉน.
นาถกรณธรรม ๑๐
๑. ดูก่อนท่านอาทิผิด ผู้มีอายุทั้งหลาย ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มี
ศีล เป็นผู้สำรวมในปาติโมกขสังวร ถึงพร้อมด้วยมรรยาทและโคจรอยู่ มี
ปรกติเห็นภัยในโทษเพียงเล็กน้อย สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย.
แม้ข้อที่ภิกษุเป็นผู้มีศีลสำรวมในพระปาติโมกขสังวร ถึงพร้อมด้วยมารยาท
และโคจรอยู่ มีปกติเห็นภัยในโทษเพียงเล็กน้อย สมาทานอาทิผิด อักขระศึกษาอยู่ใน
สิกขาบททั้งหลาย นี้ก็เป็น นาถกรณธรรม.
๒. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ข้ออื่นอีก ภิกษุเป็นผู้มีธรรม
อันสดับแล้วมาก ทรงธรรมที่ได้สดับแล้ว สะสมธรรมที่ได้สดับแล้ว. ธรรม
ทั้งหลายที่งามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ประกาศพรหมจรรย์
พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิง เห็นปานนั้น
อันเธอได้สดับแล้วมาก ทรงไว้มาก คล่องปาก ตามเพ่งด้วยใจ แทงตลอด
ดีแล้วด้วยทิฏฐิ. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย แม้ข้อที่ภิกษุเป็นผู้มีธรรม
อันสดับแล้วมาก ทรงธรรมที่ได้สดับแล้ว สะสมธรรมที่ได้สดับแล้ว ธรรม
ทั้งหลายที่งามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ประกาศพรหมจรรย์
 
พระปิฎกธรรม

1 条评论:

Website? 说...

…โลกที่เปรียบด้วยใบ และรากแห่งพฤกษา คงไม่มีวิชาการ อะไรนักดอกพระคุณเจ้า เรื่องว่า หนังสือของผู้ดี ผู้ใหญ่ ก็ให้คนเราตระเวนทั้งวัน ไปอ่านหนัก แต่ก็อย่างนั้น เรื่องเดียวทั้งนั้น คือเป็น ภูมิกิเลส ที่จำต้องเรียกว่า รู้‘อวิชา’ แต่ว่าก็ถือ และยังเรียกว่าคุณเครื่องของทางเจริญหรือความเป็นส่วนกลาง เพราะนั่น คือการ หมายความว่า เป็น Sign หรือ Design ย่อมพ้องอันแต่โลกนี้จะนฤมิต แต่ไม่พ้องพอกัน แก่สิ่ง กับที่คนต้องมาด่าว่าเสียดสีหรือสัพยอก ระย่อ หนีไป หรือยกให้ระโยง ความยอกย้อน อันนี้ เรื่อง ‘อธรรม!’ เป็นประการ โดยเท่ากับ ไม่ยอมเชื่อว่า ธรรมะ! ธรรม (ทำ!) แล้ว ๆ เกิดก่อน และทุกคนเป็นตัวตนอยู่ในกลจักร ณ ธรรมวัฏฏ์ หรือพระธรรมจักรที่พระองค์ (Bhagava) ทรงพลพระกำลัง หมุนแล้ว

คือทีแรก พวกเราก็อาจติตอบภาษาฝรั่งเหมือนกับไปว่า ‘มันไม่ได้บอกอะไร!’ แต่คง เพราะเขาไม่มีการยกประเด็น หัวหกก้นขวิด ยอกย้อน มากเหลือหลาย อย่างเรากระมัง คืออย่าง สมมุติ เขาว่า Bible ยกเป็นเนื้อหาก็น้อยมากเท่านั้น แต่เขาทาบทับจะทำดีวิเศษอย่างไร? เขาก็ให้ทำไปเลย คือดูเหมือนของเขาจะพาพาดทาง ลง เจาะช่องอย่างเดียวว่า ถ้าคนไม่เอาแต่ (sign) ตรงที่เป็นอนันตริยกรรม ทุกคนก็พึงขวนขวายหาเอาทางพ้นทุกข์สิ้นเชิงเท่านั้นแหละ ภพภูมิมากแท้คือระเบียบราชการเปรียบเทียบยกมาเป็นแค่บท (Bot, Robot) ยาก! อะไร?ปานนั้น ก็เป็นที่ มิใช่พึงว่าใครจะต้องมาสนใจอะไรมากมาย ยิ่งไปกว่า ‘เป็นลิงได้กล้วย เป็นถ้วยได้กับข้าว’ จึงยกแค่ความเป็น แห่ง อาณัติสัญญาณ (sign) ตามแค่ภาระจำเป็น จะทำ

ศาสน์เพียรเพื่อคนอารยะ ก็จำยิ่งสอนและยกให้ฝรั่งท่านไป หากสื่อแต่จะทำปฎิภาณ สร้าง หารือกว่านี้ควรเป็นเชาวน์ นัก เรื่องก็ย่อมจะไม่ใช่ธรรมบริสุทธิ์ ตามแบบ สิ่งของ เรื่อง ตรงที่เป็นนิรุตติธรรม เพราะว่าธรรมที่แท้เป็นของสภา? ยกอันซื่อ อันเร่งเร้า เข้าแก่น อันที่ย่อมมิใช่ต้องแก้ปัญหาเชาวน์ แต่ว่าให้ทุกคนไปทำงานได้โดยตรง ตามตอบต่อตัวบทอวิชานั้น ๆ เพื่อจะบรรเทาโทษ หรือบรรเทาเรื่องแก่ความเป็นแสลงเช่นนั้น ว่าจงอย่าให้จำพวกอวิชามันได้มีฤทธิ์ ณ อันที่มันพึงว่าต่างหาก เพราะว่า อวิชามันเป็นที่ลึก เป็นที่ลับลี้ เมื่อมิเร่งปราบ เมื่อนั้น มักหนีหลบหลีกพ้นไป จรดแล้ว หาไม่เห็น และว่า คงเป็นถนัดมหันตโทษเช่นนั้น นั่นเอง จะมาธำรงคงอยู่เป็นอนันต์ ประดุจดั่ง เดือนดาวพราวฟ้า และเอกพิภพ เรือนมนุษย์ ที่โถมถั่งหลั่งไหล บ่าลง ตรงเป็นสายทางจรดจดอยู่ ดั่งท่าทำ ประเทียบเชิญห้วงมหรรณพ แต่สิ่งที่เพียรให้รู้เห็น แต่ความอันที่คนมิพึงจะต้องไปรู้…

...nai phra thamma khan 1...